อัปเดตมาตรการเดินทางเข้าสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีจากประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2565)
•
ตามระเบียบการเดินทางเข้าสหพันธ์ฯ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ที่แก้ไขเพิ่มเติม (The Ordinance on Coronavirus Entry Regulations) ซึ่งมีผลถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ผู้ที่เดินทางเข้าสหพันธ์ฯ จากทุกพื้นที่รวมถึงประเทศไทย (ไม่รวมอียูและเชงเกน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเก๊า นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน) ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ยังคงต้องแสดงเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน (urgent need to travel) ในการเดินทางเข้าสหพันธ์ฯ เว้นแต่ ผู้เดินทางเป็นพลเมือง หรือ เป็นผู้มีถิ่นพำนัก หรือ เป็นบุคคลในครอบครัวของพลเมือง หรือ ผู้มีถิ่นพำนักในประเทศสมาชิกอียูหรือเชงเกน หรือ ผู้เดินทางได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว
•
สำหรับผู้ที่จะถือว่าได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) ได้รับวัคซีน 3 โดส โดยต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในอียู (ซึ่งปัจจุบัน ได้แก่ BioNTech/Pfizer, Moderna, AZ, J&J และ Novavax สามารถฉีดไขว้ได้) หรือ
(2) ได้รับวัคซีน 2 โดส โดยต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในอียู (ซึ่งปัจจุบัน ได้แก่ BioNTech/Pfizer, Moderna, AZ, J&J และ Novavax สามารถฉีดไขว้ได้ ซึ่งใช้ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยหลังจากนี้ผู้ได้รับวัคซีน 2 โดส จะถือว่าเป็นผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนต่อเมื่อแสดงหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
(2.1) ได้รับโดสที่สองมาแล้วไม่เกิน 270 วัน หรือ
(2.2) มีผลการตรวจภูมิคุ้มกัน (Antibody test) ก่อนได้รับวัคซีนโดสแรก หรือ
(2.3) มีผลการตรวจหาเชื้อฯ แบบ PCR เป็นบวกก่อนได้รับวัคซีนโดสที่สอง หรือ
(2.4) ผลการตรวจหาเชื้อฯ แบบ PCR เป็นบวก ภายหลังได้รับวัคซีนโดสที่สองมาแล้วไม่น้อยกว่า 28 วัน หรือ
(3) ผู้ที่เคยหายป่วยและได้รับวัคซีน 1 ใน 5 ชนิดตาม (1) แล้ว 1 โดส สามารถเดินทางเข้าสหพันธ์ฯ ได้โดยไม่ต้องแสดงเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน
•
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน